ปัจจุบันเราต้องเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง
Last updated
Last updated
บรรยายโดย คุณอรพงศ์ เทียนเงิน ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์
สรุป โดย ดร.ธีรศานต์ @iczz สหัสสพาศน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร DNAbySPU.com
คำถามที่สำคัญในวันนี้ คือ เราต้องเผชิญกับความท้าทายอะไรบ้าง
ความท้าทายอะไรบ้าง
ถ้าเราอยู่ได้โดยมี Regulator ไม่ใช่ชีวิตที่ยั่งยืน
3 ปี ที่ผ่านมา SCB ใช้เงินลงทุนไป 40,000 ล้านบาท เพื่อผันตัวให้เป็น Digital Company
Banking Industry กำไรรวม 1.9 แสนล้านบาท และเป็น Industry ที่ไม่มี Growth มาหลายปี
ทุกสายงานในธุรกิจมีเจ้าตลาดทั้งสิ้น
หากมี Innovation ใหม่เข้ามาในตลาด บางทีคู่แข่งอาจไม่ต้องแข่งด้วย Innovation ก็ได้ แต่แข่งด้วยการ Cut Cost
คนที่วิ่งเร็ว และ มีคนที่ไม่วิ่งเลย เวลาจะเป็นคำตอบว่าใครถูก
การที่ไม่มี Movement ใน Industry บางทีการลงทุนไม่ใช่สิ่งดีก็ได้ ถ้าลงทุนแล้วไม่สร้างรายได้ คือ การเพิ่ม Cost ต้องแข่งกับคนที่ไม่ลงทุนเลย
ระหว่างที่แข่งกัน หากมองไปข้างนอกจะมี Big Disruptor รอเข้ามาแข่งด้วยอยู่ เมื่อก่อนเราคิดว่าเขาเข้ามาแข่งไม่ได้ แต่ปัจจุบันเราจะเริ่มเห็นแล้ว
Grab Gojek หากลองถามกลุ่มนี้ว่า Revenue Model คืออะไร คำตอบเหมือนกันเลยคือ ปล่อยกู้ ที่อยู่ในระบบของตัวเอง
Big Disruptor ธุรกิจในรูปแบบใหม่ Infrastucture ก็ไม่มี ทุกอย่างอยู่ในรูปแบบ Digital ทั้งหมด ทำให้ Cost Advantage กับแบงก์ต่างกันมาก
Big Disruptor มองเห็น Data ลึกกว่าแบงก์ ยกตัวอย่างเช่น Grab เค้าเห็นเลยว่า Taxi รายไหนตื่นกี่โมง ขับรถกี่ชั่วโมง มีรายได้เท่าไหร่ เมื่อไหร่ที่ควรซื้อรถใหม่
Big Disruptor Source of Fund ถูกกว่าแบงก์มากมาย เพราะฉะนั้นโอกาสที่ธุรกิจเหล่านี้จะเข้ามาทดแทนธุรกิจที่ธนาคารทำอยู่ได้อย่างง่ายดาย
ธุรกิจที่เกิดใหม่เหล่านี้ Grab Gojek Line Lineman ทุกรายกำลังวิ่งเข้าหา ”ศูนย์” คือ Free Shipping
Ali Express สั่งของ 200 บาท ส่งให้ถึงบ้านฟรี หากถามว่าผมอยู่ใน Logistic Company ต้องถามตัวเองใหม่ว่า Future ของผมคืออะไร รายได้วิ่งเข้า “ศูนย์” แต่ขณะเดียวกันต้องลงทุนตลอดเพื่อ Stay Alive นี่คือภาพที่เห็นอยู่ในธนาคารเช่นกัน
Retail Industry เราจะเห็นว่า Wallmart ปิดไปหลายร้อยแห่ง Macy ช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมาปิดไป 30 กว่าแห่ง ทั้งๆ ที่เป็น Peak Season ทำให้เราเห็นว่าในหลาย Industry ถูก Disrupt มาแล้วอย่างสิ้นเชิง
Telecom Industry ในเมืองไทย ในช่วงปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราทุกคนส่ง SMS ไปอวยพร คำถามคือในปีที่ผ่านมาใครส่ง SMS ไปอวยพรเพื่อนบ้าง? ไม่มีเลย ทั้งๆ ที่ระหว่างทาง Telecom โตตลอดเวลา
ถึงแม้ตลาดยังโตขึ้น ถึงแม้ยังต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่มี Technology เข้ามา Disrupt
ในภาพของการเปลี่ยนแปลง ในสภาพของตลาดที่มีการแข่งกันสูงมาก และไม่ได้เกิดรายได้ใหม่ การลงทุนใน Innovation ถ้าไม่มีทิศทางที่ชัดเจนจะเป็นการสร้าง Cost ไม่ได้สร้าง Revenue แล้วภาพการ Drop ของรายได้อย่างรวดเร็วก็เกิดขึ้น
Media Industry ชื่อที่เราเคยนึกถึง คือ ช่อง 3 ช่อง 7 ไทยรัฐ เดลินิวส์ แต่ในวันนี้ ผมไม่คิดถึงชื่อเหล่านี้เลย คำถามของผมคือ ผมจะ Buy Ads ใน Google ได้อย่างไร ผมจะ Reach ใน Facebook ได้อย่างไร ผมจะ Push ผ่าน Line ได้อย่างไร
ตอนนี้เป็นช่วงของ Disruption to very world อย่างแท้จริง
Tranformation Industry Grab จับคนที่มีรายได้ต่ำ ปลายทางคือ ปล่อยกู้ เมื่อมองเบื้องหลัง คือใคร Grab คือ มาเลเซีย Gojek คือ อินโดนีเซีย และเมื่อมองเบื้องหลัง Platform อื่นๆ ทั่วโลก ไม่ใช่ธุรกิจของประเทศไทยเลย
สั่งของใน Lazada ของไทย Ship ใน 3 วัน ถ้าของจากจีน Ship ใน 14 วัน หากใครอยากได้ของดี อยากได้เร็ว ก็สั่งของที่ส่งในประเทศไทย หากผมซื้อเชิ๊ตตัวหนึ่ง ราคา 600 บาท อีก 3 เดือนกลับเข้าไปดูใหม่ เราจะเห็นเชิ๊ตที่เหมือนกันเลย ในราคา 300 บาท เพราะคนพวกนี้เห็น Data ตลอดเวลา เห็นว่าของอะไรขายดี และใครเป็นคนซื้อ และจีนก็มีฐานของ Supplier ที่ใหญ่มาก เขาจึงบอก Supplier ว่าอยากได้ของแบบนี้แต่ราคาลดลงครึ่งหนึ่ง คือ มีคนทำได้เสมอ
ต่อไป Warehouse ของ Shopping Online ของจีนมาอยู่ในไทย ที่สัตหีบ สามารถส่งได้ในวันเดียว ถึงตอนนั้น ที่เราเคยเข้าใจว่า Digital จะเพิ่มโอกาสให้คนตัวเล็กๆ ผมเชื่อว่าคนเล็กๆ จะไม่มีที่อยู่
ในบุญถาวร กระเบื้อง Cotto ราคา 20 บาท กระเบื้องจากจีนที่วางอยู่ข้างๆ กันราคา 4 บาท เราจะเลือกซื้อของใคร
Digital Disruption for Real ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน ใหญ่แค่ไหน มีโอกาสโดนหมด
จากเรื่องพวกนี้ เราต่อไปเราต้องทำอะไร?
Major Technology
ภายในปี 2020 Technology ที่จะเปลี่ยนโลกจะถึง Maturity
แนะนำอ่าน Quantum Computing ใน BBC https://www.bbc.com/news/science-environment-43065485
What is Quantum Computing https://youtu.be/7HXTt7HMDE8
Computer ที่เก่งที่สุดในโลกในเวลานี้ Process ได้ที่ 10 ยกกำลัง 6 ต่อ Transaction ต่อวินาที แต่เมื่อ Quantum Computer เกิดขึ้น จะ Process ได้ที่ 10 ยกกำลัง 100 ต่อ Transaction ต่อวินาที ต่อไปนับจากนี้ อะไรที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้ในวันนี้ อีกไม่นานจะทำได้
เงินที่ลงไปใน Technology Quantum Computing เป็นหลักหลาย Billon $ เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีโอกาสเกิด แต่ไปถึงจุดนั้นโลกจะเกิดอะไรขึ้น เราจะเอาอะไรมาแข่งกัน
จากประสบการณ์ที่ใช้เงินไป 40,000 ล้านบาทในการลงทุนใน Technology ใน 3 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้เราลงไปเท่าไหร่ก็ตาม เราก็ยังเร็วไม่พอ
Webank ของจีน เป็น Bank ของ Tencent ปล่อย Unsecure Lending ที่ 18% ยอดหนี้เสียไม่ถึง 1% ที่เค้าทำได้เพราะเค้ามี Data เยอะมาก โดยมี Attribute ของลูกค้าต่อคนอยู่ที่ 7,000-10,000 Attribute ในทางกลับกัน หากเราเขียนถึงตัวเราเองใน 7000 Term เราเขียนได้ไหม เช่น อายุเท่าไหร่ จบจากไหน มีเพื่อนชื่ออะไร วันนี้ทำอะไรบ้าง ตัวเราเองยังรู้จักตัวเราเองยังไม่ถึง 7,000 Term เลย แต่ในขณะที่บริษัทพวกนี้ รู้จักเรามากถึง 7,000-10,000 Term เค้าจะทราบเลยว่าเดือนสิงหาผมต้องจ่ายค่าเทอมลูก เงินในบัญชีไม่ถึง เค้าส่ง Invitation มาเลย ว่าคุณต้องการเงินประมาณเท่าไหร่ และคำนวณการผ่อนชำระมาให้ทันที คิดมาให้เบ็ดเสร็จเลย ผมแค่ Take Offer เพราะอยู่ในจุดที่ผมต้องการใช้เงินพอดี ด้วยวิธีนี้เค้าถึงทำได้ในการบีบยอดหนี้เสียประมาณ 1% แต่สำหรับแบงก์ไทย Unsecure Loan ยอดหนี้เสียเป็น Double Digit ทั้งนั้น
ลองนึกภาพว่าอีกไม่นานเราต้องแข่งกับคนที่มีความสามารถมากกว่าเรา 10 เท่า ต้นทุนต่ำกว่าเรา 10 เท่า เราจะแข่งกันได้อย่างไร และโลกแบบนั้นมาอย่างรวดเร็ว
SCB ลงทุนใน Digital Venture เพื่อที่เราอยากได้ Tech มาใช้กับเราให้เร็วที่สุด
จากสงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา ทำให้จีนหันมามองไทย ให้ความสนใจไทยมากขึ้น
ที่ผ่านมาเราลงทุนสูงมาก แต่เมื่อไปเทียบกับคนที่มี Potential ที่เป็นคู่แข่ง เราเทียบกับเค้าไม่ได้ และโลกพวกนี้มาเร็วมาก
ทุกวันนี้สามารถใช้ ai ปล่อยกู้ผ่าน video confrarence จับโกหกจากการแสดงสีหน้า ถ้าไม่เข้าเกณฑ์คุณต้องรับภาระดอกเบี้ยที่แพงหน่อย อาจจะเป็น 30% ไม่ใช่ 18%
Technology ทุกวันนี้ สามารถทำ offering ได้รายบุคคล จากที่เราเข้าใจว่า เราจะ move จาก individual ไป mass แต่จริงๆแล้วในทุกวันนี้ มันมุ่งกลับมาที่ individual เพราะด้วย ai จะรู้เป็นรายบุคคลว่าวันนี้ผมต้องการอะไร รู้ถึงขีดความสามารถในการจ่ายของผมทันที รู้ว่าสามารถจ่ายได้มากน้อยขนาดไหน
Less in the bank โดยที่ Cost ในปัจจุบัน 40% เราต้องเอาลงให้เหลือ 30%
Financial transection 4% ที่ผ่านสาขา อีก 96% digital
เป้าคือ Move คนเข้าสู่ Digital เพื่อให้ได้ Data และโจทย์ต่อมาคือจะเอา Data มาทำให้เกิดธุรกิจใหม่ได้อย่างไร
ถ้าคนที่ไม่มี Innovation ที่ไม่ได้ Innovative เท่าเรา ก็จะแข่งขันได้ด้วยวิธีอื่น เพราะไม่มีใครยอมเสีย Market share
Set up bank ให้เป็น Platform เมื่อก่อนมีเงิน อยากได้ดอกเบี้ยวิ่งมาหา Bank ผมอยากได้เงินกู้ ผมวิ่งมาหา Bank แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่เลย ทุกวันนี้อยากทำธุรกิจ คนวิ่งหา VC ได้เงินต้นทุนถูกกว่า Bank เพราะ VC ให้ Multiply ตาม Revenue ไม่ใช่ผลประกอบการ
Growth จริงๆ อยู่ในโลก Start Up เพราะฉะนั้นถ้า Bank จะสร้างรายได้ใหม่ๆ มันไม่ค่อยมีช่องว่างในธุรกิจเดิม เพราะฉะนั้น Bank จะทำอย่างไร ถึงจะ Spring Off บริษัท เพื่อที่จะไปหาเงินในโลกของ Start Up ซึ่ง Command a Lot Multiple
VC ให้ Value กับ Start Up 10 เท่าของ Revenue ไม่ใช่ 10 เท่าของ Profit ทำให้เห็นว่า Growth อยู่ Outside Banking Industry
ในทุกธุรกิจ เราต้องตื่นขึ้นมา Realize ว่าโลกมันเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ในอดีตเราอาจคิดได้ว่า อาจมีช่วง Up Cycle Down Cycle พอ Down แล้วจะกลับมา Up ทุกวันนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
ธุรกิจสามารถอยู่ได้ แต่เมื่อมีคนเข้ามาแข่งแล้วเราไม่สามารถต่อสู้ได้ หรือผันตัวได้ ธุรกิจนั้นจะหายไป ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม และจุดตายเป็นจุดที่สูงมาก ไม่ใช่ตายจากการทำธุรกิจได้ไม่ดี แต่เป็นการตายจากการทำธุรกิจได้ดี
สรุปสำหรับไปคิดต่อ ทุกคนล้วนพบเจอเรื่องแบบนี้แล้ว คำถามในวันนี้คือใครจะไม่เจอบ้าง เจอกันทุกคน สิ่งที่ต้องทำ คือ ทำความเข้าใจกับเรื่องพวกนี้ และเราอย่าคิดว่าเรามีเวลา เพราะ Business Cycle ในโลกทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิม อย่าคิดว่าเมื่อธุรกิจอยู่ในช่วงขาลงแล้วจะกลับขึ้นมาดีได้ใหม่ บางทีพออยู่ในช่วงขาลงแล้วมันจะหายไปเลย ดังนั้น อย่ามานั่งคิดว่ามันคืออะไร คำตอบมันคืออะไร เพราะไม่ว่าเราจะคิดเท่าไหร่มันก็ไม่เห็นคำตอบ เราต้องลงไปเล่นเองและเรียนรู้ไปกับมัน และหากถ้าเราจะเรียนรู้จากคนที่เร็วกว่า ไปเป็น Partner กับเขา เราก็ต้องปรับตัวให้เร็วเช่นกัน เพราะหากเราไม่เร็วพอ เค้าก็จะมองผ่านเราไปหาคนที่คู่ควร ที่ไปได้กับเค้า #ทุกคนล้วนปรับตัวเราเองปรับตัวแล้วหรือยัง และโจทย์ที่สำคัญคือเราจะต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าเห็นว่าเราเป็นส่วนสำคัญในชีวิตในอนาคต #โลกโหดร้ายหรือเราไม่เข็มแข็งพอ
ชมคลิปเต็ม ::
https://www.youtube.com/embed/Q1KPtLdY4xk
หมายเหตุ เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อมุมมองของการแข่งขันในยุคปัจจุบัน จึงขออนุญาตสรุปประเด็นที่สำคัญ เพื่อให้อ่านได้จบในเวลา 5 นาที เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่อาจไม่ได้ดูคลิปเต็ม ด้วยเวลา 25.45 นาที